ภาพรวมความเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องในวันศุกร์ โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกันยายนที่เพิ่มขึ้นถึง 254,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง สถานการณ์ดังกล่าวทำให้โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพฤศจิกายนแทบจะไม่มี อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังได้รับแรงสนับสนุนจากความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง โดยกองทุน SPDR ยังคงเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นถึง 4.32 ตัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
สัปดาห์นี้ ตลาดจะจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของเดือนกันยายน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่จะบ่งบอกถึงทิศทางเงินเฟ้อและนโยบายการเงินของเฟด นอกจากนี้ รายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ก็เป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
แนวโน้มราคาทอง
จากสัญญาณทางเทคนิค ทั้ง MACD และ Modified Stochastic แสดงสัญญาณขาย (Sell Signal) ในกรอบ Timeframe Day ทำให้คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงสู่แนวรับที่ 2,630 ดอลลาร์ และอาจลงไปถึงระดับ 2,620 ดอลลาร์ นักลงทุนควรระมัดระวังและติดตามสถานการณ์ทั้งในสหรัฐฯ และตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด