ราคาทองคำปรับตัวลงอย่างแรง หลังจากที่ขึ้นทำสถิติ All-Time High ที่ระดับ 2,758 ดอลลาร์ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และ Bond Yield อายุ 10 ปีของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินชั้นนำอย่างโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs), เจพีมอร์แกน (JPMorgan) และซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) ยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำในระยะยาว โดยระบุว่าทองคำยังคงมีศักยภาพในการเติบโต ขณะที่กองทุน SPDR ขายทองออกไป 1.44 ตันในช่วงที่ผ่านมา
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ ตลาดจะติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐฯ เช่น ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนตุลาคม, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านใหม่เดือนกันยายน ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น
การวิเคราะห์ราคาทองคำ
คาดว่าราคาทองคำอาจเริ่มมีการฟื้นตัวเล็กน้อย หลังจากที่ปรับตัวลงแรง โดยต้องจับตาแนวต้านสำคัญที่ระดับ 2,730 ดอลลาร์ ซึ่งมีโอกาสที่ราคาทองคำจะฟื้นตัวไปแตะระดับดังกล่าว แต่คาดว่าอาจยังไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ได้ง่าย อย่างไรก็ตาม แนวรับที่สำคัญอยู่ที่ระดับ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งอาจสามารถรองรับราคาได้ในระยะสั้น นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้
