ในช่วงสองวันที่ผ่านมา แนวโน้มราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากนักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้อนุมัติการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้การโจมตีข้ามพรมแดน หลังจากที่สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุญาตให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธ Army Tactical Missile Systems (ATACMS) ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย นอกจากนี้ กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอีก 0.58 ตัน สะท้อนถึงความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในตลาด
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในคืนนี้ ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำในอนาคต
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้านที่ระดับ 2,640-2,650 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (SMA50) คาดว่าราคาทองคำอาจชะลอการปรับตัวขึ้นในบริเวณนี้ หากไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ อาจเกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา ขณะที่สัญญาณจาก MACD แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น (Bullish MACD) นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ในการตัดสินใจลงทุน