สรุปสถานการณ์ แนวโน้มราคาทองคำ 27 พฤศจิกายน 2567

แนวโน้มราคาทองคำ

แนวโน้มราคาทอง ฟื้นตัวขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงรุนแรง และความไม่แน่นอนทางการค้าจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% และเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 10% หากเขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม 2568 นอกจากนี้ รายงานการประชุมเฟดยังสะท้อนความเห็นที่แตกต่างของกรรมการเฟดเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย สถานการณ์นี้ส่งผลให้นักลงทุนยังให้ความสำคัญกับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่กองทุน SPDR ยังคงถือครองทองคำในปริมาณเดิม


ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามในคืนนี้

  1. จีดีพีไตรมาส 3 (ประมาณการครั้งที่ 2)
  2. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
  3. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนตุลาคม
  4. ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนตุลาคม
  5. ยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนตุลาคม

ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยสะท้อนภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอาจมีผลต่อทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น


วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

สัญญาณทางเทคนิค
การเกิดเส้น SMA20 ตัดลงมาใต้เส้น SMA50 บ่งชี้ถึงแนวโน้มการปรับตัวลงในระยะสั้น โดยราคาทองคำอาจเผชิญแรงเทขายบริเวณแนวต้านที่ 2,640-2,650 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงคาดว่าจะมีกรอบจำกัด โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 2,570 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้น SMA100 หากราคายืนเหนือแนวรับนี้ได้ ราคาทองคำอาจฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง


แนะนำกลยุทธ์การลงทุน

  • แนวรับสำคัญ: 2,600 และ 2,570 ดอลลาร์
  • แนวต้านสำคัญ: 2,640 และ 2,650 ดอลลาร์

คำแนะนำ

  • หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุแนวต้าน 2,640-2,650 ดอลลาร์ได้ แนะนำเปิดสถานะขาย
  • หากราคาปรับตัวลงมาที่แนวรับ 2,570 ดอลลาร์ สามารถเริ่มสะสมซื้อใหม่ โดยตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2,560 ดอลลาร์

ราคาทองคำแท่ง 96.5%
ควรพิจารณาความเคลื่อนไหวของราคาทองคำตลาดโลกควบคู่กับปัจจัยเศรษฐกิจ เพื่อวางแผนการลงทุนที่เหมาะสม