สรุปสถานการณ์ราคาทองคำ: ความกดดันจากเศรษฐกิจและการเมือง
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่
- การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 218,000 ตำแหน่ง กดดันราคาทองคำจากการคาดการณ์เศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
- การขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้ากลุ่ม BRICS 100% จากโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความกังวลต่อการค้าระหว่างประเทศ
- คำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ระบุว่าจะลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้แรงสนับสนุนต่อทองคำลดลง
อย่างไรก็ตาม มีข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับ ธนาคารกลางจีน ที่กลับมาซื้อทองคำในเดือนพฤศจิกายน หลังจากหยุดซื้อไปกว่า 6 เดือน การซื้อครั้งนี้สะท้อนถึงการยอมรับระดับราคาสูงสุดของทองคำในตลาดโลก ส่วนกองทุน SPDR ขายทองคำออก 6.61 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤศจิกายน
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพฤศจิกายน
ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำ
วิเคราะห์ราคาทองคำ
- สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลงอย่างช้า ๆ
- แนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,580 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (SMA100) และคาดว่าจะเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง
- หากราคาทองคำปรับตัวลงถึงแนวรับดังกล่าว อาจเกิดการฟื้นตัวในระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน
- แนวรับ: 2,600 และ 2,580 ดอลลาร์
- แนวต้าน: 2,640 และ 2,650 ดอลลาร์
- แนะนำเปิดสถานะขายที่ระดับ 2,640 ดอลลาร์
- จุดตัดขาดทุน (Stop Loss): 2,650 ดอลลาร์
- เป้าหมายทำกำไร (Take Profit): 2,580 ดอลลาร์
นักลงทุนควรติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน