บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ปัจจัยสนับสนุนและแรงเทขายจากแนวต้านสำคัญ
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ก่อน ทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน โดยได้รับแรงสนับสนุนจาก
- การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางจีน
- จีนเข้าซื้อทองคำเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนธันวาคม
- ความกังวลทางเศรษฐกิจจากนโยบายทรัมป์ 2.0
- ความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจหนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
- การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls)
- แม้ตัวเลขเดือนธันวาคมจะเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แต่ไม่ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำมากนัก
- กองทุน SPDR
- ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 5.74 ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธันวาคม
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธันวาคม
- รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจเฟด 12 เขต (Beige Book)
ข้อมูลเหล่านี้จะส่งผลต่อการคาดการณ์นโยบายการเงินของเฟดและอาจส่งผลต่อราคาทองคำในระยะสั้น
วิเคราะห์ราคาทองคำ
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้บริเวณแนวต้านสำคัญที่ 2,700 ดอลลาร์
- คาดว่าอาจมีแรงเทขายออกมาบ้างที่บริเวณดังกล่าว
- หากราคาปรับตัวลงมายืนเหนือแนวรับ 2,670 ดอลลาร์ ได้ จะยังคงเป็นสัญญาณเชิงบวก
แนวรับ-แนวต้านราคาทองคำ
- แนวรับสำคัญ: 2,670 ดอลลาร์ และ 2,650 ดอลลาร์
- แนวต้านสำคัญ: 2,700 ดอลลาร์ และ 2,720 ดอลลาร์
กลยุทธ์การลงทุน
- สำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น:
- รอเข้าซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงใกล้แนวรับ 2,670 ดอลลาร์
- ตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2,650 ดอลลาร์
- ตั้งเป้าหมายทำกำไรที่แนวต้าน 2,700-2,720 ดอลลาร์
- สำหรับการลงทุนระยะยาว:
- หากราคาปรับตัวลงในกรอบแนวรับ ยังสามารถพิจารณาเข้าซื้อสะสม โดยใช้แนวรับที่ 2,670 ดอลลาร์ เป็นจุดยืนสำคัญ
คำแนะนำเพิ่มเติม
- นักลงทุนควรติดตามตัวเลข CPI และ PPI อย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะสะท้อนแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางนโยบายการเงินของเฟด
- ระมัดระวังแรงขายทำกำไรในระยะสั้น โดยเฉพาะบริเวณแนวต้านที่ 2,700 ดอลลาร์.