แนวโน้มราคาทอง 30 ม.ค. 68

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ: เฟดคงดอกเบี้ย กดดันราคาทองคำ แต่ยังมีโอกาสฟื้นตัว

ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา

ราคาทองคำปรับตัวลงหลัง เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ย ไว้ที่ 4.25% – 4.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งมีปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาด ได้แก่

  1. ท่าทีของเฟด:
    • ไม่รีบร้อนปรับลดดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง
    • ประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ย้ำว่าไม่ได้ติดต่อกับ ทรัมป์ หลังจากที่ทรัมป์เรียกร้องให้ลดดอกเบี้ย
  2. แรงซื้อจากกองทุน SPDR:
    • แม้ราคาทองคำปรับตัวลง แต่ SPDR กลับเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 4.3 ตัน แสดงถึงความต้องการถือครองทองคำ

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตา

คืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผย

  1. จีดีพีไตรมาส 4 (ประมาณการครั้งที่ 1):
    • ตัวชี้วัดการเติบโตทางเศรษฐกิจ หากออกมาสูงกว่าคาด อาจกดดันราคาทองคำต่อ
  2. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์:
    • ตลาดจับตาว่าตัวเลขแรงงานจะสะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดหรือไม่
  3. ยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือน ธ.ค.:
    • หากภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว อาจกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
  4. การแถลงของธนาคารกลางยุโรป (ECB):
    • อาจมีสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในยุโรป ซึ่งส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำ

วิเคราะห์ราคาทองคำ

  1. แนวโน้มทางเทคนิค:
    • ราคาทองคำอาจมีโอกาสฟื้นตัวขึ้น แต่คาดว่าการปรับตัวขึ้น จะอยู่ในกรอบจำกัด
    • หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 2,772-2,775 ดอลลาร์ อาจมีแรงขายออกมา
  2. ความเสี่ยง:
    • หากจีดีพีสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาด อาจทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า และกดดันราคาทองคำ

แนวรับ-แนวต้านราคาทองคำ

  • แนวรับ: 2,740 ดอลลาร์ และ 2,725 ดอลลาร์
  • แนวต้าน: 2,772 ดอลลาร์ และ 2,775 ดอลลาร์

กลยุทธ์การลงทุน

  1. ระยะสั้น:
    • หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 2,772-2,775 ดอลลาร์ ให้ระวังแรงขาย
    • สามารถเข้าซื้อเมื่อราคาปรับฐานลงใกล้แนวรับ 2,740 ดอลลาร์
    • ตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2,725 ดอลลาร์
  2. ระยะยาว:
    • หากราคาทองคำสามารถทะลุแนวต้าน 2,775 ดอลลาร์ อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปสู่ 2,800 ดอลลาร์

สรุ

ราคาทองคำอาจฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะสั้น แต่ยังต้องระวังแรงเทขาย หากไม่สามารถทะลุแนวต้าน 2,775 ดอลลาร์ นักลงทุนควรจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจคืนนี้และถ้อยแถลงจาก ECB เพื่อประเมินแนวโน้มของราคาทองคำต่อไป