ราคาทองคําย้อนหลังเมื่อวานนี้ ปรับตัวขึ้น 14.18 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยแรงขายทํากําไรกดดันให้ทองคําลดช่วงบวกที่ทํามาในระหว่างวันหลังราคายะยานขึ้นแรงไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2013 บริเวณ 1,689.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าจากความต้องการสกุลเงินปลอดภัยจึงเป็นปัจจัยกดดันราคาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี ความวิตกเกี่ยวกับการระบาดของ Covid-19 นอกประเทศจีนยังคงอยู่ ล่าสุด อิตาลีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 220 ราย เสียชีวิตเพิ่มเป็น 7 ราย ส่วนบาร์เรน, อิรัก, โอมาน, คูเวต และอัฟกานิสถาน มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อเป็นครั้งแรก ซึ่งสร้างความวิตกว่า การระบาดที่ขยายวงกว้างจะยิ่งกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงจนกดดันให้ดาวโจนส์ปิดตลาดร่วงลง 1,031.61 จุด ทําสถิติร่วงลงในวันเดียวหนักสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2018 ด้าน “โกลด์แมน แซคส์” หั่นคาดการณ์ GDP ไตรมาส 1 ของสหรัฐเหลือ 1.2% จาก 1.4%
อันเนื่องมาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในประเทศต่างๆ นอกจากนี้ การระบาดของไวรัสยังไปกระตุ้นการคาดการณ์เกี่ยวกับการ “ลด” ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในปีนี้ อีกด้วย สะท้อนจาก FedWatch Tool ที่บ่งชี้ว่า เทรดเดอร์คาดมีโอกาส 85% ที่เฟด จะ“ลด” อัตราดอกเบี้ยภายในการประชุมเดือนก.ค. ปัจจัยที่กล่าวมาจึงยังคงช่วยพยุงราคาทองคําเอาไว้ สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จาก CB และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์
ที่มา ylgbullion.co.th