
ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ถูกกดดันจากดอลลาร์แข็ง–Bond Yield พุ่ง ตลาดจับตา GDP สหรัฐคืนนี้
ราคาทองคำ เมื่อคืนที่ผ่านมา เคลื่อนไหวในกรอบแคบ และ ปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยถูกกดดันจาก ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) อายุ 10 ปี ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐออกมาดีกว่าคาด
โดยเฉพาะ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. ที่สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของภาคการผลิตในสหรัฐ และลดแรงกดดันต่อการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลาง (เฟด) ในระยะใกล้
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนอยู่บ้างจากความกังวลเกี่ยวกับ มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเงินเฟ้อในอนาคต ขณะที่ กองทุน SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิม สะท้อนภาพความไม่แน่ใจของนักลงทุนในระยะสั้น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคืนนี้
- GDP ไตรมาส 4 (ประมาณการครั้งสุดท้าย)
– ตลาดคาดขยายตัว 2.3%
– หากออกมาดีกว่าคาด อาจเป็นแรงกดดันต่อราคาทองในระยะสั้น - จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
– คาดเพิ่มขึ้น 2,000 ราย เป็น 225,000 ราย - ยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือน ก.พ.
– คาดเพิ่มขึ้น 0.9% หลังจากลดลง 4.6% ในเดือนก่อน
ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยเฉพาะถ้า GDP ออกมาสูงกว่าคาด อาจหนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันทองคำเพิ่มเติม
วิเคราะห์ราคาทองคำ
ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำยังไม่มีแรงขับเคลื่อนใหม่ และยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด
- แนวรับ อยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์
- แนวต้าน ที่ 3,040 ดอลลาร์
MACD ยังแสดงโมเมนตัมขาขึ้นอ่อนตัว ส่วน Modified Stochastic ยังไม่มีสัญญาณซื้อชัดเจน
กลยุทธ์: เหมาะสำหรับการเทรดในกรอบ (Sideways Trading) โดยเน้น ซื้อเมื่ออ่อนตัวใกล้ 3,000 ดอลลาร์ และ ขายทำกำไรเมื่อเข้าใกล้ 3,040 ดอลลาร์
แนะนำรอความชัดเจนหลังตัวเลข GDP และ PCE ออกในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนเปิดสถานะใหญ่อ่านเพิ่มเติม