ในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเริ่มเผชิญกับแรงเทขาย เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นเป็น 55.2 ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นักลงทุนกำลังรอคอยการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แจ็กสัน โฮล โดยเฉพาะการแถลงของประธานเฟดที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามคือ ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนกรกฎาคม ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 624,000 ยูนิตจากเดือนก่อนที่ 617,000 ยูนิต
วิเคราะห์ราคาทองคำ ราคาทองคำทำจุดต่ำสุด (Low) และจุดสูงสุด (High) ที่ต่ำกว่าก่อนหน้า โดยสัญญาณเทคนิคในกราฟรายวัน (Timeframe Day) แสดงให้เห็นว่า Modified Stochastic เส้น %K ตัดเส้น %D ลง ซึ่งเป็นสัญญาณขาย (Sell Signal) ทำให้มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวลงต่อไป อย่างไรก็ตาม อาจมีการฟื้นตัวในระยะสั้นหลังจากการปรับตัวลงแรง แต่อย่างไรก็ดี หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 2,510 ดอลลาร์ได้ ให้ระวังแรงขายอีกครั้ง
สำหรับนักลงทุนที่เปิด Long Position แนะนำให้ขายทำกำไรบางส่วนในช่วงนี้ ส่วนผู้ที่กำลังมองหาโอกาสเข้าใหม่ ควรรอและดูสถานการณ์ (Wait & See) หรือพิจารณาเปิดฝั่ง Short Position เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น โดยให้พิจารณาแนวต้านบริเวณ 2,510-2,515 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,520 ดอลลาร์