ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงนี้มีความผันผวน โดยเมื่อราคาปรับตัวเข้าใกล้ระดับ 2,530 ดอลลาร์ มักเกิดแรงเทขาย เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงบ้าง
ปัจจัยกระทบราคาทองคำ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้น 0.2% ตามคาด แต่ Core CPI ปรับขึ้น 0.3% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ทำให้นักลงทุนคาดว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลดลงเหลือ 0.5%
ในขณะเดียวกัน กองทุน SPDR Gold Trust เพิ่มการถือครองทองคำอีก 1.72 ตัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำในระยะสั้น
แนวโน้มในอนาคต
ราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือระดับ 2,500 ดอลลาร์ ได้ โดยคาดว่าจะมีการฟื้นตัวเล็กน้อยในระยะสั้น การวิเคราะห์จากเครื่องมือทางเทคนิค Modified Stochastic เกิดสัญญาณซื้อ (Buy Signal) ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาทองอาจจะได้รับแรงซื้อกลับมาในช่วงถัดไป อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของราคาทองคำคาดว่าจะยังคงอยู่ในกรอบ 2,500-2,530 ดอลลาร์
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ควรติดตาม
ตัวเลขที่ต้องจับตามองคืนนี้ ได้แก่
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนสิงหาคม คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะทรงตัว
- การประชุมของธนาคารกลางยุโรป คาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ 3.65% จากเดิมที่ 4.25%
สรุปคือ ราคาทองคำในระยะสั้นยังมีความผันผวน แต่มีสัญญาณบวกที่อาจฟื้นตัวได้ในกรอบที่กำหนดไว้