ในช่วงสี่วันที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ล่าสุด รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธพิสัยกลางโจมตียูเครน พร้อมทั้งเตือนชาติตะวันตกว่ารัสเซียสามารถโจมตีฐานทัพของประเทศใดก็ตามที่ใช้อาวุธโจมตีรัสเซีย ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอีก 2.58 ตัน สะท้อนถึงความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในตลาด
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามในคืนนี้ สหรัฐฯ มีกำหนดเผยแพร่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคการบริการประจำเดือนพฤศจิกายน โดยตลาดคาดว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 48.8 และดัชนี PMI ภาคการบริการจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 55.2 นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพฤศจิกายนจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 74.0 จาก 73.0 ในเดือนตุลาคม
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค สัญญาณจาก MACD แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น (Bullish MACD) บ่งชี้ว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นในระยะสั้น นอกจากนี้ ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (SMA50) และเคลื่อนไหวบริเวณดังกล่าว หากราคาสามารถทะลุผ่านเส้น SMA50 ขึ้นไปได้ อาจทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง นักลงทุนควรติดตามปัจจัยเศรษฐกิจและสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้มีผลกระทบต่อทิศทางราคาทองคำในอนาคต