ในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างมาก เนื่องจากการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) อย่างไรก็ตาม เลบานอนได้รายงานว่าอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิงหลายครั้งตั้งแต่เริ่มมีผลบังคับใช้ ขณะเดียวกัน รัสเซียยังคงโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน ส่งผลให้ความตึงเครียดในภูมิภาคยังคงอยู่ ในด้านการลงทุน กองทุน SPDR ได้ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 0.58 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามในคืนนี้ สหรัฐฯ มีกำหนดการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตประจำเดือนพฤศจิกายน ทั้งจากมาร์กิตและสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญถึงสภาวะเศรษฐกิจและอาจส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำ
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ควรจับตาแนวต้านที่ระดับ 2,670 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากราคาทองคำสามารถทะลุผ่านระดับนี้ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ แต่หากไม่สามารถผ่านได้ อาจเกิดแรงเทขาย โดยมีแนวรับที่ระดับ 2,630 ดอลลาร์ และ 2,620 ดอลลาร์ตามลำดับ กลยุทธ์ที่แนะนำคือ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 2,660-2,670 ดอลลาร์ได้ ควรเปิดสถานะขายที่ระดับ 2,660 ดอลลาร์ พร้อมตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2,670 ดอลลาร์ เพื่อบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ