
บทวิเคราะห์ราคาทองคำ: แนวโน้มขาขึ้นเริ่มชะลอ จับตาการประชุม FOMC
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 จากปัจจัยสนับสนุนหลัก ได้แก่
ความตึงเครียดทางการค้า:
- ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ
- สร้างความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ และเพิ่มความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
แรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐสูงกว่าคาด
- อาจทำให้เฟดยังไม่รีบลดดอกเบี้ย ส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาทองคำ
แรงขายจากกองทุน SPDR
- ขายทองคำ 5.44 ตันในสัปดาห์ก่อน บ่งชี้ว่าอาจมีแรงขายทำกำไร
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้
การอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้าน (ม.ค.)
- ตัวบ่งชี้สภาพเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์
ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย (ก.พ.)
- หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาด อาจหนุนเงินดอลลาร์และกดดันราคาทองคำ
ดัชนี PMI ภาคบริการ (ก.พ.)
- ช่วยสะท้อนสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
การประชุม FOMC และรายงานการประชุมเฟด
- นักลงทุนรอฟังสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ย
วิเคราะห์ราคาทองคำ
แนวโน้มทางเทคนิค:
- MACD เริ่มลดลง บ่งชี้ว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนตัว
- Modified Stochastic เริ่มมีเส้นตัดกันลง อาจเป็นสัญญาณการปรับฐานระยะสั้น
- หากราคาหลุดแนวรับ 2,864 ดอลลาร์ มีโอกาสปรับตัวลงสู่ 2,854 ดอลลาร์
แนวโน้มระยะสั้น:
- ราคาทองคำอาจเผชิญแรงขายทำกำไร
- หากไม่สามารถยืนเหนือ 2,900 ดอลลาร์ ได้ อาจปรับตัวลง
แนวรับ-แนวต้านราคาทองคำ
- แนวรับ: 2,864 ดอลลาร์ และ 2,854 ดอลลาร์
- แนวต้าน: 2,900 ดอลลาร์ และ 2,910 ดอลลาร์
กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์ระยะสั้น (Short-term Trading):
- หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้ 2,900 ดอลลาร์
- เปิดสถานะขาย (Short)
- ตั้งเป้าหมายทำกำไรที่ 2,864 ดอลลาร์
- ตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2,910 ดอลลาร์
กลยุทธ์รอเข้าซื้อ (Buy on Dip):
- หากราคาทองคำปรับตัวลงมาที่ 2,854 ดอลลาร์
- ให้ทยอยเข้าซื้อ โดยตั้งเป้าหมายทำกำไรที่ 2,900 ดอลลาร์
- ตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 2,845 ดอลลาร์
สรุป
- แนวโน้มขาขึ้นเริ่มชะลอ หลังจากปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 7 สัปดาห์
- แรงขายทำกำไรเริ่มกดดันราคา สะท้อนจาก MACD และ Modified Stochastic
- หากราคาทองคำหลุด 2,864 ดอลลาร์ อาจปรับตัวลงสู่ 2,854 ดอลลาร์
อ่านเพิ่มเติม