แนวโน้มราคาทอง 24 กุมภาพันธ์ 2568

ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา

ราคาทองคำยังคง เดินหน้าทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 โดยได้รับแรงหนุนจาก

ความกังวลสงครามการค้า และความไม่แน่นอนของ นโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ซึ่งช่วยหนุนราคาทองคำ
กองทุน SPDR ซื้อทองเพิ่มขึ้นถึง 41.32 ตันในสัปดาห์ก่อน สะท้อนความต้องการทองคำที่ยังสูง

อย่างไรก็ตาม สัญญาณทางเทคนิคเริ่มส่งสัญญาณการชะลอตัวของโมเมนตัมขาขึ้น ซึ่งต้องจับตาแนวรับสำคัญเพื่อดูทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น

จีดีพีไตรมาส 4 (ประมาณการครั้งที่ 2)
- ตัวเลขนี้จะสะท้อนแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ
- หากออกมาต่ำกว่าคาด อาจเป็นปัจจัยหนุนราคาทอง
ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนม.ค.
- เป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ
- หากเงินเฟ้อออกมาต่ำ อาจเพิ่มโอกาสให้เฟดปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งเป็นผลบวกต่อราคาทอง

สัญญาณทางเทคนิค
- MACD เริ่มชะลอตัวลง เป็นสัญญาณว่า แรงซื้อเริ่มอ่อนตัว
- ราคาทองคำเริ่มมีแนวโน้มปรับฐานหลังจากขึ้นติดต่อกันหลายสัปดาห์
- ให้จับตาแนวรับสำคัญที่ 2,900 ดอลลาร์
แนวโน้มระยะสั้น
- หากราคาทองคำยังคงยืนเหนือ 2,900 ดอลลาร์ ได้ จะมีโอกาสฟื้นตัวต่อ
- แต่หากราคาหลุดแนวรับ 2,900 ดอลลาร์ อาจเกิดแรงเทขายหนักลงมาถึง 2,880 ดอลลาร์

กลยุทธ์ Wait & See:
- ราคาทองคำเริ่มมีสัญญาณชะลอการปรับตัวขึ้น
- ควรรอให้ราคามีสัญญาณชัดเจนก่อนเข้าซื้อ
กลยุทธ์เก็งกำไรระยะสั้น:
- หากราคาทองคำปรับตัวขึ้น ใกล้แนวต้าน 2,946 ดอลลาร์
- สามารถ เปิดสถานะขาย (Short Position) โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 2,900 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนที่ 2,960 ดอลลาร์
กลยุทธ์ Buy on Dip:
- หากราคาทองคำปรับตัวลงมาใกล้ 2,900 ดอลลาร์
- สามารถ เข้าซื้อเพื่อรอการดีดตัวขึ้น โดยมีเป้าหมายทำกำไรที่ 2,946 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนที่ 2,880 ดอลลาร์

ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว แต่ สัญญาณทางเทคนิคเริ่มบ่งชี้ถึงการชะลอตัว
แนวรับสำคัญที่ 2,900 ดอลลาร์ หากหลุด อาจมีแรงเทขายหนัก
กลยุทธ์แนะนำ
- Wait & See รอดูการยืนของแนวรับ
- เปิดสถานะขายเมื่อราคาขึ้นใกล้แนวต้าน 2,946 ดอลลาร์
- รอเข้าซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงมาบริเวณ 2,900 ดอลลาร์
จับตาตัวเลข จีดีพีไตรมาส 4 และดัชนี PCE ซึ่งอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาทองในสัปดาห์นี้

อ่านเพิ่มเติม