.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ปัจจัยหนุนหลักได้แก่
- กองทุน SPDR Gold Trust เพิ่มการถือครองทองคำสู่ระดับ 904.38 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่สิงหาคม 2566
- ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมือง
- การเลือกตั้งในเยอรมนี พรรคอนุรักษ์นิยมคว้าชัย 208 ที่นั่ง แต่ต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม อาจส่งผลต่อเสถียรภาพตลาดหุ้นยุโรป
แม้ราคาทองคำจะเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ก็ต้องเผชิญแรงขายทำกำไรเป็นระยะ เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ภาวะ ซื้อมากเกินไป (Overbought)
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่
จีดีพีไตรมาส 4 (ประมาณการครั้งที่ 2) – ตัวเลขนี้จะบ่งชี้แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือน ม.ค. – เป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ
- หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาด อาจช่วยหนุนราคาทองคำต่อ แต่หากออกมาสูง อาจเพิ่มแรงกดดันต่อราคาทอง
วิเคราะห์ราคาทอง
แนวโน้มระยะสั้น
- ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น แต่เริ่มมีสัญญาณ Overbought
- MACD และ RSI ส่งสัญญาณชะลอตัว ซึ่งอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น
- หากราคาทองคำพักฐาน คาดว่าแนวรับแรกอยู่ที่ 2,900 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 2,880 ดอลลาร์
แนวโน้มระยะกลาง
- ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental)
- หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 2,900 ดอลลาร์ จะยังคงมีโอกาสไปต่อที่ 2,946 ดอลลาร์ และ 3,000 ดอลลาร์ ในระยะถัดไป
อ่านเพิ่มเติม