
ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา
ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นแรงทำ All-time high ที่ 2,989 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัย ได้แก่
- ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า
- ปธน.ทรัมป์ ขู่เรียกเก็บภาษี ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์และไวน์นำเข้าจาก EU สูงถึง 200%
- การตอบโต้จาก EU ที่ประกาศเรียกเก็บภาษี วิสกี้นำเข้าจากสหรัฐฯ 50% ส่งผลให้ตลาดกังวลถึงการเผชิญหน้าทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และยุโรป
- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอ่อนตัว
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 3.2% ต่ำกว่าตลาดคาด และต่ำกว่าครั้งก่อน ซึ่งสะท้อนว่าเงินเฟ้ออาจชะลอลง
- ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดอาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ
- แรงซื้อจากนักลงทุนและกองทุนทองคำ
- กองทุน SPDR ซื้อทองคำเพิ่ม 7.17 ตัน สะท้อนถึงการเข้าซื้อของนักลงทุนสถาบัน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผย
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (UoM Consumer Sentiment) เดือนมี.ค.
- ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลงสู่ระดับ 63.1 จาก 64.7 ในเดือนก.พ.
ผลกระทบต่อทองคำ
- หากตัวเลขต่ำกว่าคาด → อาจสะท้อนถึงความกังวลทางเศรษฐกิจ → หนุนราคาทองคำ
- หากตัวเลขดีกว่าคาด → อาจกดดันทองคำในระยะสั้น
สรุปแนวโน้มราคาทองคำ
- ราคาทองคำยังคงแนวโน้ม ขาขึ้น (Uptrend)
- แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์ ซึ่งหากทะลุผ่านได้ ราคาทองอาจขึ้นไปที่ 3,020 ดอลลาร์
- หากไม่สามารถผ่านแนวต้านได้ อาจมีแรงขายทำกำไร และราคาทองคำอาจปรับตัวลงมาที่แนวรับ 2,960 – 2,950 ดอลลาร์
กลยุทธ์แนะนำ: รอจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัว และแบ่งทำกำไรหากราคาทองคำขึ้นทดสอบ 3,000 ดอลลาร์
อ่านเพิ่มเติม