ราคาทองคำทรงตัว หลังพุ่งทะลุ $3,000 กังวลสงครามการค้าโลกยังรุนแรง
ราคาทองคำ Spot เคลื่อนไหวอย่างผันผวนในรอบวัน หลังดีดขึ้นทะลุระดับ $3,000 จากแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนวิตกต่อความเสี่ยง เศรษฐกิจโลกถดถอย จากสงครามการค้าโลกที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะการตอบโต้กันระหว่าง สหรัฐและจีน
สหรัฐฯ เตรียมบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้ในวันที่ 9 เม.ย. เวลา 00.01 น. (ตามเวลาสหรัฐฯ) ซึ่งจะตรงกับ 11.01 น. ตามเวลาไทย โดยจะเรียกเก็บ ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราสูงถึง 104% ขณะที่จีนยังไม่แถลงอย่างเป็นทางการถึงมาตรการตอบโต้ แต่ตลาดคาดว่าอาจรุนแรงไม่แพ้กัน
ด้านกองทุนทองคำ SPDR Gold Trust ยังคงขายทองคำอย่างต่อเนื่อง เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยล่าสุดขายออกอีก 0.86 ตัน สะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่อาจกำลังลดความเสี่ยงท่ามกลางความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น
วิเคราะห์ราคาทองคำ
ราคาทองคำมีแรงเทขายกดดันให้ปรับตัวลงมาอยู่ใกล้แนวรับบริเวณ $2,970 โดยช่วงต้นวันเคยทะลุ $3,000 ขึ้นไปแต่ไม่สามารถยืนได้ ก่อนจะปิดตลาดทรงตัว
แนวรับสำคัญ: $2,970
แนวต้านสำคัญ: $3,005 และ $3,030
สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่า ราคาทองคำยังอยู่ในโหมดพักฐาน โดยคาดว่าอาจมีแรงฟื้นตัวสั้น ๆ ขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $3,005 แต่หากไม่สามารถผ่านได้ อาจเผชิญแรงขายรอบใหม่และกลับตัวลงอีกครั้ง
ปัจจัยที่ต้องจับตาเพิ่มเติม
- การประกาศใช้ มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ในวันที่ 9 เม.ย.
- การตอบโต้ของจีนต่อมาตรการภาษีใหม่
- ถ้อยแถลงของ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น และ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และ ริชมอนด์ ที่อาจส่งสัญญาณต่อทิศทางเศรษฐกิจ
กลยุทธ์การลงทุน
- หากราคาทองคำดีดขึ้นไปทดสอบบริเวณ $3,005–3,030 และยังไม่ผ่านแนวต้าน แนะนำ ทยอยขายทำกำไรระยะสั้น
- หากราคาย่อลงมาใกล้แนวรับ $2,950–2,970 และไม่มีปัจจัยลบเพิ่มเติม อาจพิจารณา สะสมระยะกลาง สำหรับนักลงทุนที่มีเงินเย็น
สรุป
ตลาดทองคำยังคงอยู่ในช่วง “ไม่แน่นอนสูง” ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้า การตอบโต้ด้านภาษี และความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก นักลงทุนควรจับตาทุกความเคลื่อนไหวของนโยบายสหรัฐ-จีนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วง 48 ชั่วโมงนี้ที่สถานการณ์อาจพลิกผันได้ทุกเมื่อ